5 พิจารณาหาคำตอบ โดยใช้หลัก (1) ถ้าอสมการเครื่องหมาย >, ³ เลือกช่วงที่มีค่าบวก (+) ถ้ามีหลายค่าเชื่อมด้วย " หรือ " (2) ถ้าอสมการเครื่องหมาย <, £ เลือกช่วงที่มีค่าลบ (-) ถ้ามีหลายค่าเชื่อมด้วย " หรือ " ตัวอย่าง จงแก้อสมการ (x-5)(x+2) > 0 (x-3) วิธีทำ วงเล็บใดวงเล็บหนึ่งเท่ากับ 0 หาค่า x ออกมาได้ x = 5, -2, 3 เขียนบนเส้นจำนวน - + - + -2 3 5 \ คำตอบ คือ -2 < x < 3 หรือ x > 5 ขอบคุณข้อมูลจาก:
สมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี สัญลักษณ์ " = " บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน คำตอบของสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรในสมการแล้วทำให้สมการเป็นจริง หรือสอดคล้องกับสมการ อสมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี สัญลักษณ์ " <, >, £, ³, ¹ บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน คำตอบของอสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรแล้วในอสมการทำให้อสมการเป็นจริงหรือสอดคล้องกับอสมการ
สมการ ระบบสมการสองตัวแปร คือ สมการที่มีตัวแปรสองตัว เลขชี้กำลังของตัวแปรแต่ละตัวเป็นหนึ่งและไม่มีการคูณกันของตัวแปร โดย คำตอบของสมการเชิงเส้นสองตัวแปรที่มี x และ y เป็นตัวแปร คือ ค่า x และ y ที่ทำให้สมการเป็นจริง เช่น x+y = 6 ถ้า x และ y เป็นจำนวนนับ จะได้คู่อันดับ (x, y) ดังนี้ (1, 5), (2, 4), (3, 3), (4, 2), (5, 1) เมื่อนำคู่อันดับเหล่านี้มาเขียนกราฟจะได้ 5 จุดเรียงกันให้อยู่ในแนวเส้นตรง และถ้า x และ y เป็นจำนวนจริง กราฟของสมการ x+y = 6 จะเป็นเส้นตรงดังรูป แบบฝึกหัด 1. จงแก้ระบบสมการ x + y = 35 และ x = y – 7 ก. (21, 14) ข. (-21, 14) ค. (14, 21) ง. (-14, 21) 2. จงแก้ระบบสมการ y = 5x+70 และ 8x - 3y = -14 ก. (28, 70) ข. (-28, 70) ค. (28, -70) ง. (-28, -70) 3. ในฟาร์มแห่งหนึ่งเลี้ยงไก่และหมู ซึ่งนับขาได้ 264 ขา และนับหัวได้ 89 หัว จงหาจำนวนของไก่และหมูว่ามีอย่างละเท่าใด ก. ไก่ 44 ตัว หมู 45 ตัว ข. ไก่ 46 ตัว หมู 43 ตัว ค. ไก่ 43 ตัว หมู 46 ตัว
การหาเซตคำตอบของสมการและอสมการ - YouTube
1. ประโยคภาษาและประโยคสัญลักษณ์ ประโยคภาษาคือ ประโยคที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน ประโยคสัญลักษณ์ คือ ประโยคที่ถูกสร้างขึ้นมาแทนประโยคภาษาเพื่อความ สะดวกในการคิดคำนวณ ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์ ครึ่งหนึ่งของห้าสิบน้อยกว่าสามสิบ สองเท่าของจำนวนหนึ่งมากกว่าสิบอยู่สอง 2. สมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี สัญลักษณ์ " = " บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน คำตอบของสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรในสมการแล้วทำให้สมการเป็นจริง หรือสอดคล้องกับสมการ 3. อสมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี สัญลักษณ์ " <, >, £, ³, ¹ บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน คำตอบของอสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรแล้วในอสมการทำให้อสมการเป็นจริงหรือสอดคล้องกับอสมการ 4. การแก้สมการ คือ วิธีหาคำตอบของสมการนั่นเอง การตรวจสอบ คือ การนำตัวแปรที่ได้จากการแก้สมการไปแทนลงในสมการที่กำหนดให้เพื่อดูว่าค่าดังกล่าวเป็นคำตอบของสมการหรือไม่ 5. โจทย์สมการ คือ โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ใช้การแก้สมการในการหาคำ ตอบนั่นเอง หลักการแก้ปัญหาโจทย์สมการ 1. อ่านโจทย์ให้เข้าใจว่าโจทย์กำหนดอะไรมาให้และต้องการหาอะไร 2.
สมการและอสมการ ประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่องหมายเท่ากับ ( =) เรียกว่า ส มการ ส่วนประโยคที่มีเครื่องหมาย >, <,,, เรียกว่า อสมการ ตัวอย่างที่ 1 ประโยคต่อไปนี้ประโยคใดเป็นสมการ และประโยคใดเป็นอสมการ 1. 13 + 14 = 27 เป็นสมการ 2. 14 + 17 > 25 เป็นอสมการ 3. 13 + 14 31 เป็นอสมการ 4. 15 + 20 < 37 เป็นอสมการ 2. สมการที่มีตัวไม่ทราบค่า สมการมีทั้งสมการที่มีตัวไม่ทราบค่า (Unknown) หรือตัวแปร (Variable) และสมการที่ ไม่มีตัวไม่ทราบค่าหรือไม่มีตัวแปร เช่น x + 7 = 12 มี x เป็นตัวแปรหรือตัวไม่ทราบค่า 18 - ก = 7 มี ก เป็นตัวแปรหรือตัวไม่ทราบค่า 18 + 4 = 2 เป็นสมการที่ไม่มีตัวแปรหรือไม่มีตัวไม่ทราบค่า 12 6 = 72 เป็นสมการที่ไม่มีตัวแปรหรือไม่มีตัวไม่ทราบค่า 3. สมการที่เป็นจริงและสมการที่เป็นเท็จ สมการที่มีจำนวนที่อยู่ทางขวาและทางซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ (=) มีค่าเท่ากัน เรียกว่า สมการเป็นจริง ถ้ามีค่าไม่เท่ากัน เรียกว่า สมการเป็นเท็จ ตัวอย่างที่ 2 ข้อใดเป็นสมการที่เป็น จ ริง และข้อใดสมการเป็น เท็จ 1. 3 + 7 = 7 + 3 สมการเป็นจริง 2. 8 - 5 = 5 - 8 สมการเป็นเท็จ 3. 4 8 = 8 4 สมการเป็นจริง 4. 4 8 = 8 4 สมการเป็นเท็จ ***************** ใบกิจกรรมที่ 1 1.
กำหนดตัวแปรแทนโจทย์ต้องการหา 3. เปลี่ยนประโยคภาษาที่โจทย์กำหนดให้เป็นประโยคสัญลักษณ์ ( สมการ) 4. แก้สมการเพื่อหาคำตอบที่โจทย์ต้องการ 5. ตรวจสอบคำตอบที่ได้กับเงื่อนไขที่โจทย์กำหนดว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ตัวอย่าง ให้ 2 เท่าของ A น้อยกว่า 5 เท่าของ B อยู่ 10 ถ้า B =30 แล้ว A จะมีค่าเท่าใด วิธีทำ 5B - 2A = 10 -------(1) B = 30 -------------(2) แทนค่า (1) ด้วย (2) ได้ 2A = 5(30) - 10 = 150 - 10 = 140 A = 140/2 = 70 ตรวจสอบคำตอบ แทนค่า A = 70 ใน (1) ได้ 5(30) - 2(70) = 150 - 140 = 10 ทำให้สมการเป็นจริง 6. หลักการแก้อสมการ 1. คำตอบที่ได้จากอสมการจะอยู่ในรูปช่วง 2. ถ้าคูณหรือหารด้วยค่าลบ ( จำนวนจริงลบ) เครื่องหมายของอสมการต้องเปลี่ยนเป็นตรงข้าม 3. การแก้อสมการกำลังสูงสุดแค่หนึ่งให้ใช้หลักการแก้เหมือนการแก้สมการคือย้ายข้างได้สำหรับการบวกและลบนิยมย้ายตัวแปรใว้ด้านหนึ่ง 4. การแก้อสมการที่มีกำลังมากกว่าหนึ่ง 4. 1 ทำทางขวามือของอสมการให้มีค่าเป็นศูนย์ 4. 2 แยกตัวประกอบของอสมการให้อยู่ในรูปผลคูณหรือผลหารของฟังก์ชัน 4. 3 พิจารณาดูว่าค่าใดบ้างที่ทำให้ตัวประกอบแต่ละตัวเท่ากับสูนย์ 4. 4 นำค่าที่ได้ใส่ลงในเส้นจำนวน โดยเรียงจากน้อยไปมาก น้อย + - + - + มาก กำหนดให้ช่วงทางขวามือสุดเป็นค่าบวก และถัดมาเป็นค่าลบ บวก ลบ …… สลับไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนของช่วงที่มีอยู่ 4.
4, จำนวนจริง, จำนวนจริง ม. 4, แบบฝึกหัดจำนวนจริง, อสมการ, อสมการอย่างง่าย, แบบฝึกหัดอสมการ, โจทย์จำนวนจริง, ตัวอย่างอสมการ, ข้อสอบจำนวนจริง, สมการ, โจทย์ปัญหาอสมการ, จำนวนจริง orendatutor, จำนวนจริง อ. เอ๋, จำนวนจริง พี่อุ๋ย, orendatutor. จำนวนจริง ม. 9/10 อสมการอย่างง่าย –. สมการและอสมการ. เราหวังว่าข้อมูลที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอขอบคุณที่อ่านข้อมูลสมการและอสมการของเรา David Darwin David Darwin is currently admin and author of Selfdirectedce. Topics on our site include education, teaching courses, learning resources and other relevant information. Hope you can find useful lessons for yourself on our website.
Successfully reported this slideshow. เรื่องง่ายๆ สมการและอสมการ Teacher at โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม 1. 1. สมการ ความหมาย: สมการคือจำานวนที่ เท่ากันตั้งแต่ 2 จำานวนขนึ้ไป โดยปกติจะ มีตัวแปร (Variable) อยดู่้วย เช่น 5x = 10, 5x = y, x2 + y2 = 25 เหล่านี้ เป็นต้น สมการจึงประกอบด้วยจำานวนทาง ขวาและจำานวนทางซ้าย (ในกรณีที่สมการ ของจำานวน 2 จำานวน ในสมการ 2 จำานวน จะประกอบด้วย ตัวแปร และคา่ คงที่ โดยตัวแปรจะมีคา่เปลี่ยนไปได้ใน ขณะที่คา่คงที่จะเปลี่ยนคา่ไม่ได้ ส่วน ตัวเลขที่เปน็ตัวคณูหรือตัวหารของตัวแปร 2. คุณสมบัติของสมการ (1) คุณสมบัติการเท่ากัน ในกรณีที่พจิารณาทีละ 2 จำานวน จำานวนทางซ้ายจะเท่ากันกับจำานวนทาง ขวา และถ้าจำานวนที่ 1 เท่ากับ จำานวน ที่ 2 จำานวนที่ 2 เท่ากับ จำานวนที่ 3 แล้วละก็ จำานวนที่ 1 จะเท่ากับ จำานวน ที่ 3 โดยไม่ต้องพสิูจน์ (เป็น axiom) 3. (2) คุณสมบัติการบวก ถ้าเอาตัวเลขจำานวนเดียวกัน ไปบวกทางซ้ายและทางขวาของสมการ จำานวนเลขของสมการยังคงเท่ากัน (3) คุณสมบัติการลบ ถ้าเอาตัวเลขจำานวนเดียวกันไป ลบทางซา้ยและทางขวาของสมการ 4. (4) คุณสมบัติของการคูณ ถ้าเอาตัวเลขจำานวนเดียวกันไปคูณ ทางซ้ายและทางขวาของสมการ จำานวน เลขของสมการยังคงเท่ากัน (5) คุณสมบัติของการหาร ถ้าเอาตัวเลขจำานวนเดียวกันไปหาร ทางซา้ยและทางขวาของสมการ จำานวน 5.
ประโยคสัญลักษณ์ต่อไปนี้ ประโยคใดเป็นประโยคสมการ ประโยคใดเป็นประโยคอสมการ 2. ข้อใดเป็นสมการที่เป็นจริง ข้อใดเป็นสมการที่เป็นเท็จ 1. 12 + 6 = 17 (...................... ) 2. 18 - 5 = 10 + 3 (............................. ) 3. 19 + 8 = 8 + 19 (...................... ) 4. 14 - 7 = 7- 14 (............................. ) 5. 12 4 = 4 (...................... ) 6. 8 5 = 5 8 (............................. ) 4. การหาคำตอบของสมการ สม การที่มีตัวแปร เช่น x + 4 = 9 เราไม่ทราบค่า x มีค่าเท่าไร ถ้าแทนค่า x ด้วย 4 จะได้ 4 + 4 = 9 ทำให้สมการเป็นเท็จ ถ้าแทนค่า x ด้วย 5 จะได้ 5 + 4 = 9 ทำให้สมการเป็นจริง ดังนั้นคำตอบของสมการ คือ x = 5 ตัวอย่างที่ 3 หาคำตอบของสมการที่ทำให้สมการเป็นจริง 1. a - 13 = 17 ( 30) 2. x +17 = 21 ( 4. 3x = 57 ( 17) 4. a 4 = 12 ( 48) 5. การแก้สมการ การแก้สมการโดยใช้สมบัติการเท่ากันเกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ และการหาร ตัวอย่างที่ 4 แก้สมการต่อไปนี้พร้อมตรวจคำตอบ 1. x + 15 = 27 วิธีทำ x + 15 = 27 นำ15 ลบออกทั้งสองข้างของสมการจะได้ x + 15 - 15 = 27 - 15 (สมบัติการลบ) x = 12 ตรวจคำตอบ แทน x ด้วย 12 ในสมการ x + 15 = 27 จะได้ 12 + 15 = 27 ซึ่งเป็นสมการที่เป็นจริง ดังนั้น x = 12 Ans.