ไฟฉุกเฉิน ถังดับเพลิง อุปกรณ์นิรภัยเซฟตี้ อุปกรณ์จราจรทั้งปลีกและส่ง ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ AUTOLIGHT แสดง 1-12 จาก 30 รายการ สถิติของเว็บไซต์ เปิดเว็บเมื่อ: 22/02/2554 ปรับปรุงเว็บเมื่อ: 26/03/2565 ผู้ชมทั้งหมด: สินค้าทั้งหมด: 8455
ระบบป้องกันแบตเตอรี่คุณภาพสูง ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่า - ป้องกันการคายประจุจากแบตเตอรี่ถึงแรงดันไฟฟ้าที่จะเป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ (Low Voltage Cut - Off) - ป้องกันการประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ถึงแรงดันที่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ (Hight Voltage Cut - Off) 2. ระบบป้องกันการลัดวงจร - AC Protection ป้องกันการลัดวงจรทางด้านแรงดันไฟฟ้าเข้า AC Line - DC Protection ป้องกันการลัดวงจรทางด้านระบบวงจรประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ - มีช่องระบายความร้อนอย่างพอเพียง และมีอุปกรณ์ประกอบ เช่น: Test Button: ON/OFF Button: Indicating Lamp - สามารถเพิ่มเติมและปรับเสริมอุปกรณ์พิเศษได้ตามความต้องการ เช่น: ระบบทดสอบระยะไกลแบบไร้สาย (Wireless Remote Test) ด้วยรีโมทแบบอินฟราเรด (Infrared Remote Test) และระบบทดสอบ การทำงานอัตโนมัติ (Automatic Time Test System) เป็นต้น
ลักษณะของระบบไฟฟ้า เพื่อให้ ป้ายทางออกฉุกเฉิน สามารถบอกทางออกหนีไฟได้ต้องมีการติดตั้งระบบไฟที่เหมาะสม สายไฟฟ้าที่ใช้เพื่อต่อเข้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้า ควรเป็นชนิดทนไฟและได้รับการป้องกันความเสียหายทางกายภาพที่เหมาะสม อาจเป็นการร้อยในท่อที่สามารถทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนรับแหล่งจ่ายไฟอื่นได้แบบอัตโนมัติ สายไฟฟ้าควรมีขนาดเพียงพอสำหรับกระแสไฟที่ไหลในวงจรได้ ขนาดของสายไฟไม่น้อยกว่า 2.
เคยสังเกตไหมคับว่า ปุ่มสามเหลี่ยมสีแดง ที่มีอยู่ในรถทุกคันนั้น มีไว้ทำอะไร และ ควรใช้เมื่อไหร่ วันนี้เราไปหาคำตอบมาให้หลายๆท่านที่ยังคงส่งใส ปุ่มสีแดงรูปสามเหลี่ยมที่เรียกกันว่าปุ่มไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมาก ไฟฉุกเฉิน หรือ Emergency Light ตามชื่อเลยคับไฟฉุกเฉิน มีไว้สำหรับรถที่จอดเสียไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งตาม พรบ. จราจร มาตรา 9 และกฏหมาย ข้อ 11 กำหนดให้ใช้ ไฟฉุกเฉิน ได้ เพราะฉะนั้นไฟฉุกเฉิน สามารถใช้ได้ในกรณีรถเสียที่จอดอยู่กับที่หรือเวลารถที่วิ่งมาด้วยความเร็วแล้วเจอสิ่งกีดขวางหรือเจออุบัติเหตุข้างหน้าเราก็สามารถเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อนเตือนคนด้านหลังเพื่อให้ระวังและชะลอความเร็วเพื่อเตือนได้ แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนยังคงใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินแบบผิด ๆ กันอยู่ทั่วไปจึงอาจจะเป็นสาเหตุที่จะสามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ร่วมท้องถนนได้ และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว สถานการณ์ที่คนใช้ไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ ยกตัวอย่างเช่น. ใช้ไฟฉุกเฉินขณะข้ามแยก สังเกตเห็นบ่อยมากกับการขับรถข้ามแนกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นการกระทำที่ผิดมากๆ เพราะการที่เราเปิดไฟฉุกเฉินนั้นจะทำให้เราเห็นไฟจากรถที่มาทางด้านซ้ายกับด้านขวากะพริบเพียงข้างเดียวเท่านั้น และทำให้เราเข้าใจผิดว่ารถคันนั้นจะเลี้ยว จึงอาจจะทำให้เราขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้ระวังและส่งผลกระทบทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ สิ่งที่ควรทำ เมื่อจะข้ามแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ก็คือ ก่อนถึงแนกควรชะลอความเร็วของรถ เมื่อถึงแยกให้ดูซ้ายขวาให้ดีดี เมื่อเห็นว่าปลอดภัยก็ขับข้ามไปได้.
จราจรทางบก ลักษณะที่ 19 บทกำหนดโทษ มาตรา 148 กำหนดไว้ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท จริงอยู่ครับว่าโทษของการไม่หลบรถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน อาจจะมีโทษปรับเล็กน้อยแค่ไม่เกิน 500 บาท แต่การที่รถฉุกเฉินไปถึงที่หมายช้าไปเพียง 1 นาที อาจจะมีการสูญเสียมากกว่านี้ เช่นไฟไหม้จนลุกลามใหญ่โต หรือผู้ป่วยไปถึงมือแพทย์ไม่ทันจนเสียชีวิต ค่าความเสียหายมันเปรียบเทียบไม่ได้กับเงินค่าปรับที่คุณเสียไปแน่นอนครับ *ข้อมูลจาก
ไม่ควรติดตั้งไฟฉุกเฉินชนิดแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ไว้บริเวณที่มีอากาศถ่ายเทไม่ดีเพราะจะทำ ให้ไอตะกั่วระเหยกระจายในอากาศ เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ 2. การติดตั้งไฟฉุกเฉิน ต้องมั่นคงแข็งแรง เพราะแบตเตอรี่จะมีน้ำหนักมากอาจจะร่วงหล่นเป็นอันตรายได้ 3. ควรเสียบปลั๊กไฟฟ้าเพื่อประจุไฟฟ้าให้แบตเตอรี่เต็มอยู่เสมอ พร้อมใช้งานตลอดเวลาเมื่อไฟฟ้าปกติดับ