โกร๊ธฮอร์โมน HGH (Human Growth Hormone) ระดับของฮอร์โมนการเจริญเติบโต หรือโกร๊ธฮอร์โมน เพิ่มสูงขึ้นถึง 5 เท่า ส่งผลให้การลดระดับไขมัน และการเพิ่มกล้ามเนื้อ 2. ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) มีระดับความไวของอินซูลินเพิ่มขึ้นและระดับของอินซูลินลดลงอย่างมาก ระดับอินซูลินที่ลดลงทำให้ร่างกายสามารถเข้าถึงไขมันที่เก็บไว้ได้มากขึ้น ส่งผลต่อฮอร์โมน norepinephrine โดยการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนการอดอาหารระยะสั้นอาจเพิ่มอัตราการเผาผลาญของคุณ 3. 6–14 เปอร์เซ็นต์ 3. เกิดเซลล์ Autophagy (การกลือนกินของเซลล์) เมื่ออดอาหารเซลล์ของคุณจะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ เรียกว่า Autophagy ที่เซลล์ย่อยและกำจัดโปรตีนเก่าและผิดปกติที่สร้างขึ้นภายในเซลล์ 4.
ขอเกริ่นก่อนว่า รูปแบบของพลังงานที่ร่างกายเราชอบที่สุด คือ น้ำตาลกลูโคส (Glucose) ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงๆ เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ขนมปัง ผลิตภัณฑ์นม พืชตระกูลถั่ว เมล็ดธัญพืชอื่นๆ เป็นต้น บทความแนะนำ: ประโยชน์ของข้าวกล้อง ที่ทุกคนต้องรู้!
อุตส่าห์อดอาหารรีเซ็ตร่างกาย ถ้ากลับมากินอาหารหวานๆ มันๆ อีกก็เสียเวลาเปล่า ให้เปลี่ยนไปกินผัก ผลไม้ และธัญพืชโฮลเกรน และหลีกเลี่ยงไขมันเลวและน้ำตาลขัดสี ออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่ออาทิตย์ อดอาหารก็ช่วยคุณได้แค่ส่วนเดียว ที่เหลือคุณต้องเป็นฝ่ายใช้ชีวิตให้มีคุณภาพ ทำสุขภาพให้แข็งแรงต่อไปเอง [19] พบแพทย์ก่อนอดอาหาร. ถ้าตั้งใจจะอดอาหารแบบดื่มแต่น้ำ ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนเป็นอันดับแรก บางคนอดอาหารช่วงสั้นๆ แล้วได้ประโยชน์ก็จริง แต่สำหรับบางคนก็เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะฉะนั้นต้องให้คุณหมอเป็นฝ่ายพิจารณาจากประวัติการรักษาและการใช้ยา ว่าคุณสามารถอดอาหารได้อย่างปลอดภัยหรือเปล่า [20] ส่วนใหญ่คุณหมอจะตรวจร่างกาย รวมถึงตรวจเลือดเพื่อความแน่ใจ ถ้าคุณใช้ยาอะไรอยู่ คุณหมอจะพิจารณาว่าจะกินยาต่อไปช่วงอดอาหารได้ไหม หรือต้องปรับลดปริมาณ 2 อดอาหารภายใต้ความดูแลของคุณหมอ. ขอให้เชื่อข้อมูลและคำวินิจฉัยของคุณหมอเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่จะอดอาหารนานกว่า 3 วัน หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อรับคำแนะนำและควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่ใช่คุณหมอ ก็ต้องเป็นนักโภชนาการที่เชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ [21] ระวังเวียนหัว.
อดอาหารมันจะดีต่อร่างกายได้อย่างไร?
ป้องกันมะเร็ง การกินที่เลียนแบบการอดอาหารทำให้ร่างกายดึงกระบวนการที่ซับซ้อนออกมา ซึ่งช่วยจำแนกเซลล์ดีและไม่ดีออกจากกันตามธรรมชาติ ส่วนประโยชน์อย่างหนึ่งของการทำ Intermittent Fasting นั้นก็คือการปรับสมดุลให้กับอินซูลินในร่างกาย ซึ่งอินซูลินมีส่วนในการพัฒนาเซลล์เนื้อร้าย นอกจากนี้ การอดอาหารเป็นช่วงๆ จะช่วยลดอาการอักเสบและลดภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุล อันเป็นสองปัจจัยที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วย ภาพ: freepik / pinterest
Intermittent Fasting ช่วยซ่อมแซมเซลล์ภายในร่างกาย ร่างกายของเรามีระบบทำความสะอาดตัวเอง "Waste Removal" หรือ "Autophagy" ซึ่งจะเกิดขึ้นตอนเราอดอาหาร กระบวนการทำความสะอาดตัวเองของเซลล์นี้ จะเป็นการกำจัดเซลล์เก่า และของเสียต่างๆออกไป ทำให้เซลล์ภายในร่างกายแข็งแรงขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันก็จะแข็งแรงขึ้น ทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังน้อยลง โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และ อัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) ( 21) 7.
Fasting เทรนด์การอดอาหารของคนอยากผอม ใช้ได้ผลจริงหรือ? วันที่ 30 พ. ค. 2562 เวลา 08:00 น.
30 น. จากนั้นกินมื้อเย็นเวลา 19. 00 น. ซึ่งหลังจาก 19. จะดื่มแต่น้ำเปล่า แล้วเริ่มใหม่ในวันรุ่งขึ้น สูตรนี้ถือเป็นวิธีนึงที่ได้รับความนิยมมากในตอนนี้ เพราะทำได้ง่าย สามารถทำได้ต่อเนื่อง และไม่กระทบการใช้ชีวิตประจำวันมากจนเกินไป สูตร 19:5 หรือสูตร Fast Five คือมีช่วงเวลาการอด (Fasting) 19 ชั่วโมง และช่วงเวลาการกิน (Feeding) 5 ชั่วโมง วิธีนี้อาจจะโหดขึ้นสักหน่อย เพราะช่วงเวลางดอาหารยาวนานกว่าวิธีแรก โดยอาจจะกินมื้อแรกตอน 8. แล้วกินอีกทีตอน 15. ของอีกวัน เป็นต้น สูตร 5:2 Diet คือการกินอาหารในปริมาณตามปกติโดยควบคุมพลังงานไม่ให้น้อยกว่า BMR และไม่เกินกว่าความต้องการการใช้พลังงานต่อวัน 5 วัน/สัปดาห์ และควบคุมปริมาณพลังงานจากอาหารให้ทานประมาณ 500-600 kcal 2 วันต่อสัปดาห์ สูตร Eat Stop Eat คือมีช่วงเวลาในการอด (Fasting) 1 วันเต็ม (24 ชม. ) และทำ 1- 2 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น สูตร Warrior Diet ลักษณะวิธีการจะคล้ายการฉันอาหารของพระสงฆ์ และการถือศีลอดของชาวมุสลิม คือสามารถเลือกที่จะอด (Fasting) ในช่วงกลางวัน หรือกลางคืนก็ได้ โดยระยะเวลาในการอด (Fasting) จะกินเวลาประมาณ 19-20 ชม.
แอดไลน์ที่ลิ้งก์ด้านล่าง มาปรึกษาได้ FREE ครับ ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกด Share ด้วยนะครับ ไม่พลาดคอนเทนต์ดีๆ Follow Us ตามช่องทางด้านล่างเลยครับ LINE Official: @fitterminal | Fitterminal (YouTube) | Fitterminal Facebook | Fitterminal Instagram | Photo: Freepik